Last updated: 3 ก.ย. 2566 | 266 จำนวนผู้เข้าชม |
แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ
1.เก็บไฟไม่อยู่ หรือ หมดอายุการใช้งาน
2.ไดชาร์จทำงานผิดปกติ ซึ่งทำให้ประจุไฟเข้าไปยังแบตเตอรี่ได้น้อยกว่าปกติ และไม่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือ ไม่สามารถประจุไฟเข้าไปยังแบตเตอรี่ได้เลย
วิธีสังเกตแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
1. เริ่มมีอาการสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก
โดยเฉพาะช่วงเช้า หรือ จอดทิ้งไว้นานหลายวัน เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์เสียงมอเตอร์สตาร์ทจะหมุนช้าเหมือนไม่มีแรง หรือรุนแรงถึงขั้นสตาร์ทไม่ติด นั่นแสดงว่ามีประจุไฟไม่พอสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งในกรณีนี้อย่าเพิ่งฟันธงว่าเป็นที่แบตเตอรี่นะครับ ให้ลองพ่วงชาร์จเพื่อทำการสตาร์ทดูก่อน ถ้าเครื่องติดแล้วลองขับใช้งานปกติ เมื่อดับเครื่องยนต์ไม่นานนักแล้วกลับมาสตาร์ทติด แสดงว่าไดชาร์จไม่มีปัญหา แต่ถ้ายิ่งจอดนานหรือจอดข้ามคืนแล้วสตาร์ทติดยากหรือสตาร์ทไม่ติดคราวนี้แน่นอนว่าแบตเตอรี่รถคุณเริ่มเสื่อมสภาพไม่สามารถเก็บประจุไฟไว้ได้
2. ไฟหน้ารถเริ่มสว่างน้อยลง
เนื่องจากประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ ตรงนี้สำหรับคนที่ขับรถกลางคืนบ่อยๆ อาจจะสังเกตุได้ง่ายกว่า สำหรับใครที่ไม่ชอบออกจากบ้านค่ำๆ มืดๆ เวลาขับเข้าลานจอดให้ลองเปิดไฟหน้ารถดูน่าจะพอให้สังเกตได้
3. กระจกไฟฟ้าเริ่มทำงานช้าลง
เป็นอีกหนึ่งอาการที่มักเกิดขึ้นจากกำลังไฟจากแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ จากปกติที่เคยกดทีเดียวขึ้น/ลงสุดอย่างรวดเร็วกลับค่อยๆ ขึ้น/ลงช้าๆ พร้อมเสียงมอเตอร์กระจกไฟฟ้าที่หมุนแบบหนืดๆ เหมือนไม่มีกำลัง
4. ระบบไฟในรถเริ่มทำงานผิดปกติ
ตรงนี้ให้สังเกตุจากไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร ไฟหน้าจอเครื่องเสียงและไฟตามจุดต่างๆ เช่น ไฟเลี้ยว และไฟท้าย ซึ่งเริ่มสว่างน้อยลง บางทีก็อาจติดๆ ดับๆ รวมถึงให้ลองบีบแตรดูถ้าเสียงเบาผิดปกติ นั่นแสดงว่ากำลังไฟจากแบตเตอรี่ของคุณไม่เพียงพอเช่นกัน
5. อายุการใช้งานของแบตเตอรี่
ซึ่งแบตเตอรี่รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1.5 – 2 ปี (สำหรับรถที่ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม) เราสามารถดูได้จากฉลากหรือสัญลักษณ์ที่ทางร้านแบตเตอรี่จะทำการระบุวันที่เราเริ่มใช้งานแบตเตอรี่ครั้งแรก ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย รถที่จอดทิ้งไว้ทีละหลายๆ วันแบตเตอรี่ยิ่งอายุสั้นกว่ารถที่ใช้งานปกติ
หากเกิดรถเสียขึ้นมา โทรติดต่อเราได้เลย โทร 064-240-0031
บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ เรารับเปลี่ยนแบตนอกสถานที่